ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดขึ้น 0.6% ปิดที่ 315.05 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2551
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,694.18 จุด เพิ่มขึ้น 58.12 จุด หรือ +0.67% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,206.04 จุด เพิ่มขึ้น 35.64 จุด หรือ +0.85% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,625.39 จุด เพิ่มขึ้น 66.57 จุด หรือ +1.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นขานรับเฟดที่ประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.25% โดยเฟดต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงแตะ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่เคลื่อนไหวสูงกว่า 2.5%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิเครดิต พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ทะยานขึ้น 3.3%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นขานรับเฟดเดินหน้าใช้มาตรการ QE โดยหุ้นแรนโกลด์ รีซอสเซส พุ่งขึ้น 8.1% หุ้นโพลีเมทัล พุ่งขึ้น 7.9% และหุ้นเฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 6.1%