ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.6% ปิดที่ 310.46 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.ปีนี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,143.44 จุด ลดลง 43.33 จุด หรือ -1.03% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,594.40 จุด ลดลง 67.11 จุด หรือ -0.77% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,462.22 จุด ลดลง 50.44 จุด หรือ -0.77%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงจากความวิตกกังวลที่ว่า สหรัฐอาจจะต้องเผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง โดยล่าสุด วุฒิสภาสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 46 ไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินซึ่งเป็นฉบับที่สภาผู้แทนราษฏรได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐจะส่งร่างกฎหมายที่มีเพียงมาตรการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 พ.ย.ฉบับนี้ ไปให้กับสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อ หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้การรับรองร่างกฎหมายก่อนวันนี้ (1 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ตามเวลาไทย สหรัฐก็อาจจะเผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางในบางส่วนในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการปิดหน่วยงานครั้งแรกในรอบ 17 ปี
หุ้นยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี ร่วงลง 1.3% ขณะที่หุ้นธนาคารอินเทซา ซานเปโล ร่วงลง 3.5%
หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ดีดตัวขึ้น 5.2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.ขยับขึ้นแตะ 50.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 50.1 ในเดือนส.ค. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 51.2