รัฐบาลสหรัฐต้องปิดดำเนินงานหน่วยงานราชการบางส่วนในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2557 เนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราวภายในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ ก่อนที่จะเริ่มปีงบประมาณใหม่
การปิดหน่วยงานรัฐบาลดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2539 หรือในรอบ 17 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการงบประมาณของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลก
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางจำนวนหลายแสนคนจะต้องหยุดงานในทั่วทุกภาคส่วน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่สำคัญๆ เช่น ความมั่นคงของประเทศและนโยบายการเงินและการคลัง จะยังคงทำงานต่อไป
พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานอย่างเต็มที่ได้หลังจากวันจันทร์ที่ 30 ก.ย. อันเนื่องมาจากความขัดแย้งในประเด็นการปฏิรูประบบประกันสุขภาพที่ได้รับการผลักดันจากฝ่ายบริหารของปธน.โอบามา หรือที่เรียกกันว่า โอบามาแคร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้นั้น สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.2 ในเดือนก.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนส.ค. นับเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปีครึ่ง โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมอาจขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะไม่เปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนส.ค.ตามกำหนดในวันนี้ รวมถึงจะไม่มีการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดยกระทรวงแรงงานในวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.นี้ด้วย หากสภาคองเกรสยังไม่สามารถผ่าทางตันเพื่อยุติภาวะชะงักงันทางการเมืองได้
หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่ง 2.1% หลังบริษัทประกาศลดจำนวนพนักงานลงอีก 8,500 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดต้นทุนการดำเนินงานลง 2.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2558 หุ้นวอลกรีนปรับตัวขึ้น 3% หลังจากยอดขายหนุนผลกำไรพุ่งขึ้น หุ้นอันเดอร์ อาร์มูร์ อิงค์ บวก 2.5% หลังโบรกเกอร์อัพเกรดหุ้น