ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.7% ปิดที่ 310.79 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.ปีนี้
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,629.42 จุด ลดลง 59.72 จุด หรือ -0.69% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,158.16 จุด ลดลง 38.44 จุด หรือ -0.92% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,437.50 จุด ลดลง 22.51 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่สหรัฐต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังจากสภาคองเกรสยังไม่สามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราวได้จนถึงขณะนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความกังวลว่าการปิดหน่วยงานของรัฐบาลจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่แท้จริงต่อชาวอเมริกัน
วิกฤตการณ์ที่เป็นผลมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลส่งผลให้ทางการสหรัฐไม่สามารถรวบรวมข้อมูลหรือเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) และอัตราว่างงานเดือนก.ย. ตามกำหนดการเดิมที่จะมีการเปิดเผยในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ ตามเวลาไทย
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารอีซีบีกล่าวภายหลังการประชุมว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ พร้อมกับยืนยันว่าอีซีบีจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
หุ้น Hochtief ร่วงลง 7.9% หลังจากหนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮราลด์ ระบุว่า ได้เกิดการฉ้อโกงในบริษัท Leighton Holdings ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างในเครือของ Hochtief
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารอินเทซา ซานเปาโล ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี พุ่งขึ้น 4.7% หุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล (ซ็อคเจน) พุ่งขึ้น 2.5% และหุ้นบังโค เอสปิริโต ซานตานเดร์ ทะยานขึ้น 4%