ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 6,437.50 จุด ลดลง 22.51 จุด หรือ -0.35%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสหรัฐประกาศปิดหน่วยงานรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจากพรรคพรรคเดโมแครทและพรรครีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องงบประมาณ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลจำนวน 800,000 คนต้องหยุดพักงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และหน่วยงานสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และศูนย์คอลเซ็นเตอร์ของสำนักงานสรรพากรต้องหยุดให้บริการ
นอกจากนี้ รัฐสภาสหรัฐยังคงเผชิญหน้ากันในข้อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายโอบามาแคร์ออกไป ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลที่ว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาในเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ในเดือนนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
หุ้นกลุ่มบริษัทค้าปลีกปรับตัวลง นำโดยเทสโก ร่วงลง 3.9% หลังจากที่ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษแห่งนี้เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงทั้งบีพีและรอยัล ดัทช์ เชลล์ หลังจากราคาน้ำมันดิบชะลอตัวลง