ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 309.18 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,591.58 จุด ลดลง 31.39 จุด หรือ -0.36% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,165.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด หรือ +0.03% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,437.28 จุด ลดลง 16.60 จุด หรือ -0.26%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากนายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน
ด้านปธน.โอบามา ย้ำว่า "จะไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆ" เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยระบุว่า "เพดานหนี้จะช่วยให้กระทรวงการคลังสหรัฐสามารถชำระหนี้ที่สภาคองเกรสสร้างไว้ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการปรับเพิ่มเพดานหนี้ถึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ" ทั้งยังกล่าวอีกว่า สภาคองเกรสได้ปรับเพิ่มเพดานหนี้มาแล้ว 45 ครั้งนับตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ได้บริหารประเทศ
การแสดงความคิดเห็นของนายโบห์เนอร์ได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยสภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก
หุ้นเบอร์เบอรี่ กรุ๊ป ดิ่งลง 1.2% หลังจากผู้บริหารของบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นมาร์คส แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 2.8% หลังจากเครดิตสวิสคาดว่า ยอดขายของบริษัทจะปรับตัวลดลง