สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิดีดตัวขึ้น 119.37 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 14,586.51 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับแต่วันที่ 27 ก.ย.
ดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นเกือบ 200 จุดในช่วงเปิดการซื้อขาย แต่ได้ชะลอความแรงลงในช่วงบ่าย จากแรงเทขายทำกำไรหลังการพุ่งขึ้น ท่ามกลางความระมัดระวังว่าตลาดอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป
บรรยากาศโดยทั่วไปมีความสดใส เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการคลังในสหรัฐได้คลี่คลายลงในวันนี้ หลังจากที่ได้สั่นคลอนตลาดการเงินทั่วโลกมาหลายสัปดาห์
สภาคองเกรสได้ลงมติรับร่างกฎหมายด้านงบประมาณในเช้าวันนี้ ซึ่งจะทำให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถเปิดดำเนินการได้อีกครั้งไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. และเพิ่มอำนาจการกู้ยืมแก่รัฐบาลไปถึงวันที่ 7 ก.พ.ปีหน้า
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ขณะที่ข้อตกลงดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดหุ้นโตเกียว แต่ดัชนีนิกเกอิไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อล็อตใหญ่ หลังจากที่ดัชนีทะยานขึ้นติดต่อกันมาหลายวัน
หลังจากความวิตกที่สำคัญที่สุดในตลาดการเงินได้ผ่อนคลายลงนั้น นักลงทุนก็เปลี่ยนไปให้ความสนใจกับผลประกอบการของภาคเอกชนญี่ปุ่นในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. ที่จะมีการเปิดเผยกันในเดือนนี้
หุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มประกัน พุ่งขึ้นแข็งแกร่งรับข่าวข้อตกลงงบประมาณสหรัฐ เนื่องจากบริษัทหลายรายในกลุ่มดังกล่าวถือครองตราสารหนี้ต่างชาติ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐด้วย
หุ้นโตเกียว มารีน โฮลดิงส์พุ่ง 2.4% และหุ้นโซนี ไฟแนนเชียล โฮลดิงส์ทะยาน 3.0%