ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,568.93 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,762.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด หรือ +0.13% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,940.13 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.08%
ดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลงหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงแตะสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนก.ย. และทำสถิติลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางการเมือง
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 เดือนในเดือนก.ย. เนื่องจากการขยายตัวของผลผลิตภาคสาธารณูปโภค หลังจากที่หดตัวลงหลายเดือนติดต่อกัน
รายงานของธนาคารระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐขยายตัว 0.6% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ขยายตัว 0.4% ในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค.
หุ้นแอปเปิลร่วงลง 2.97% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้ต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ 8.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 8.67 ดอลลาร์ต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าการประมาณการของ FactSet ที่ระดับ 7.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่ยอดขายรายไตรมาสอยู่ที่ 3.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 3.597 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นเมิร์ก แอนด์ โค ดิ่งลง 2.56% หลังจากเมิร์กซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐรายงานยอดขายที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไป เพื่อลดผลกระทบของการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.
ด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้เวลา 20.00 น.ตามวลาประเทศไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค.