ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 61.59 จุด

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 31, 2013 05:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุดก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,618.76 จุด ลดลง 61.59 จุด หรือ -0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,763.31 จุด ลดลง 8.64 จุด หรือ -0.49% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,930.62 จุด ลดลง 21.72 จุด หรือ -0.55%

นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ชัตดาวน์

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ แม้ผลการประชุมล่าสุดของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยเฟดต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนขนาดวงเงินซื้อพันธบัตร

เฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ตราบใดที่อัตราว่างงานยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ต่ำกว่าระดับ 2.5%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ADP ยังได้ปรับลดตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. โดยระบุว่าเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 166,000 ตำแหน่ง

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.24% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 9.28% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 3 อยู่ที่ 425 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ขาดทุน 59 ล้านดอลลาร์

หุ้นลิงค์อิน ดิ่งลง 9.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 339,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 350,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ