ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 70.96 จุด รับผลประกอบการเอกชน

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 14, 2013 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 70.96 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 15,821.63 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.31 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 1,782.00 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 45.66 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 3,965.58 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน โดยบริษัทเมซี อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรสุทธิรายไตรมาสอยู่ที่ 177 ล้านดอลลาร์ หรือ 47 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่ยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3% เทียบเป็นรายปี แตะที่ 6.28 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และช่วยหนุนราคาหุ้นปิดพุ่งขึ้น 9.39%

หุ้น Gap พุ่งขึ้น 1.2% ขณะที่หุ้น L Brands ปรับตัวขึ้น 1.9% และห้นราล์ฟ ลอเรน ทะยานขึ้น 2.7%

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหญ่ในสิงคโปร์ เพื่อดูแลตลาดต่างๆซึ่งรวมถึงตลาดอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หุ้น Crocs ซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้าชื่อดัง พุ่งขึ้น 9.8% ขณะที่หุ้น Office Depot ปรับตัวขึ้น 3.3%

นักลงทุนจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด ที่จะแถลงของต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งความคิดเห็นของนางเยลเลนเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจนั้น เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอให้มีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแผนการด้านนโยบายในอนาคตของเฟด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 330,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ