ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 85.48 จุด ขานรับ "เยลเลน" หนุน QE

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 16, 2013 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 85.48 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 15,961.70 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.56 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 1,798.18 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 13.23 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 3,985.97 จุด

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.3% ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.6% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.7%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า การผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดำเนินต่อไปในขณะนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป

ในแถลงการณ์ครั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า “ขณะที่ไม่มีการกำหนดกรอบเวลานั้น เฟดจะตัดสินใจว่าจะลดขนาดการซื้อสินทรัพย์หรือไม่ในการประชุมแต่ละครั้งของเฟด เราจะพยายามประเมินว่ามีความคืบหน้าในตลาดแรงงานหรือไม่ ซึ่งแม้ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่ในด้านสถานการณ์การจ้างงานนั้น อัตราว่างงานที่ 7.3% ในเดือนต.ค.นั้นเป็นระดับที่สูงเกินไป ซึ่งสะท้อนถึงตลาดแรงงานและเศรษฐกิจที่ปรับตัวต่ำกว่าศักยภาพอย่างมาก"

โธมัส ลี หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ของเจพีมอร์แกน ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายระดับของดัชนี S&P 500 ขึ้นสู่ 1,825 จุด เพราะคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับแรงหนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของเฟด

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.4% จากเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่ยอดค้าส่งดีดตัวขึ้น 0.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งรวมการผลิตที่โรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย.

หุ้นเอ็กซอนโมบิล พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ของนายวอเร็น บัฟเฟตต์ ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวนในเอ็กซอนโมบิล

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส พุ่งขึ้น 1.1% และหุ้นวีซ่า ปรับตัวขึ้น .9%

หุ้นเฟดเอ็กซ์พุ่งขึ้น 1.6% หลังจากมีรายงานว่ากองทุนโซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ ได้เข้าซื้อหุ้นเฟดเอ็กซ์มูลค่า 173 ล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ