ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 66.21 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 15,900.82 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 6.50 จุดหรือ 0.36% แตะที่ 1,781.37 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 10.28 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 3,921.27 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า คาดว่าภาวะในตลาดแรงงานจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นและอาจจะเป็นเหตุผลอันควรที่เฟดจะเริ่มลดขนาด QE
ก่อนหน้านี้นายชาร์ส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าว่วา เฟดควรจะยุติมาตรการ QE หรือโครงการซื้อสินทรัพย์ซึ่งปัจจุบันมีวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เขามีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อเศรษบกิจหสหรัฐ และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะเรียกร้องให้เฟดชะลอการใช้ QE
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ปรับตัวลดลง 3.2% สู่ระดับ 5.12 ล้านยูนิต เนื่องจากราคาบ้านอยู่ในระดับสูงจนทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อไม่พอ โดยราคากลางของบ้านปรับตัวสูงขึ้น 12.8% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 199,500 ดอลลาร์
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงร่วงลง 2.9% ส่วนราคาอาหารขยับขึ้น 0.1%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มค้าปลีกได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐขยายตัว 0.4% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.1% ทั้งนี้ หุ้นเจพี เพนนี พุ่งขึ้น 3.38%
หุ้นยาฮูปรับตัวขึ้น 2.9% ขณะที่หุ้นเดียร์ แอนด์ โค ปรับตัวขึ้น 2.1%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ย.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงมาอยู่ที่ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 339,000 ราย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทยเช่นกัน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PPI ทั่วไปจะลดลง 0.2% ในเดือนต.ค.