ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,821.51 จุด ลดลง 68.26 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,785.03 จุด ลดลง 7.78 จุด หรือ -0.43% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,033.16 จุด ลดลง 4.84 จุด หรือ -0.12%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า เฟดอาจจะปรับลดขนาด QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งออกมาเป็นระยะ โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.6% มากกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.8%
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 23,000 ราย แตะระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจจะยังไม่ปรับลดมาตรการ QE จนกว่าจะถึงปีหน้าเนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดลดมาตรการ QE ในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหลายรายการอาจทำให้เฟดตัดสินใจลดขนาด QE ในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค. หุ้นแอปเปิลปิดบวก 0.51% หลังจากบริษัทไชน่า โมบาย และแอปเปิล อิงค์ ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่ออนุมัติให้ไชน่า โมบาย สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอโฟน
หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.4% หลังจากมีรายงานว่านายอลัน มูลัลลี ผู้บริหารของฟอร์ด มอเตอร์ อาจจะไม่เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารของไมโครซอฟท์