ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 198.69 จุด หลังตัวเลขจ้างงานแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 7, 2013 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวแรงเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากรายงานตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานออกมาดี ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 198.69 จุด หรือ 1.26% ที่ 16,020.20 จุด ดัชนี S&P500 ปิดบวก 20.06 จุด หรือ 1.12% ที่ 1,805.09 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 29.36 จุด หรือ 0.73% ที่ 4,062.52 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์และ S&P ดีดตัวขึ้นจากที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันถึง 5 วัน อย่างไรก็ตามตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีหลักทั้งสองดัชนียังขยับลงเล็กน้อย 0.4% และ 0.04% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกหลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.07% ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4

ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นทันทีที่เปิดตลาด ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่อัตราว่างงานลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค. สู่ระดับ 7.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี

อย่างไรก็ดี แม้ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะรอดูข้อมูลยืนยันมากกว่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรในการประชุมที่กำลังจะมาถึง

ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐจากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า รายงานล่าสุดทำให้การลดขนาดมาตรการกระตุ้นนั้นมีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นอีก แต่ก็เชื่อว่าคณะกรรมการการเงินของเฟด หรือ FOMC น่าจะยังไม่ลดมาตรการในการประชุมเดือนธ.ค. แต่อาจจะชะลอออกไปจนถึงเดือนม.ค.

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งได้จุดชนวนความวิตกกังวลให้กลับคืนมาอีกครั้งว่าเฟดอาจเริ่มลดการซื้อสินทรัพย์จากเดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอาจลดลงในเดือนธ.ค.นี้เป็นอย่างเร็ว ซึ่งความกังวลนี้เป็นปัจจัยถ่วงตลาดในช่วงต้นสัปดาห์

นอกจากข้อมูลแรงงานที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์แล้ว ธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนยังได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้น 82.5 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.

ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า รายได้ส่วนบุคคลลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. ขณะที่การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และหุ้นอื่นๆที่มีแนวโน้มว่าจะได้อานิสงส์เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว ต่างปรับตัวขึ้นคึกคัก นำโดยอินเทลที่พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากซิตี้กรุ๊ปแนะนำให้ซื้อหุ้น หุ้นไรต์เอดบวก 2.3% จากยอดขายเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ส่วนหุ้นเจซี เพนนีย์ ร่วง 8.7% หลังจากบริษัทห้างสรรพสินค้าเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการเงินของบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ