ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 20.56 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 15,822.97 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.99 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 1,780.23 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.471 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 4,007.284 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์พุ่งขึ้น 68,000 ราย แตะระดับ 368,000 ราย สูงว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 320,000 ราย และเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยอดขายยานยนต์และสินค้าประเภทอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังจากผู้นำการเจรจางบประมาณในสภาคองเกรสสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.แล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวจะกำหนดระดับการใช้จ่ายสำหรับรัฐบาลกลางในอีก 2 ปีข้างหน้า และจะยุติมาตรการลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า sequester บางส่วน ในอีก 2 ปีข้างหน้าเช่นกัน