ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,739.43 จุด ร่วงลง 104.10 จุด หรือ -0.66% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,998.40 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,775.50 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.38%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดจะปรับลดขนาด QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยอดขายยานยนต์และสินค้าประเภทอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับ QE ของเฟดยังมีขึ้นหลังจากผู้นำการเจรจางบประมาณในสภาคองเกรสสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.แล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวจะกำหนดระดับการใช้จ่ายสำหรับรัฐบาลกลางในอีก 2 ปีข้างหน้า และจะยุติมาตรการลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า sequester บางส่วน ในอีก 2 ปีข้างหน้าเช่นกัน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์พุ่งขึ้น 68,000 ราย แตะระดับ 368,000 ราย สูงว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 320,000 ราย และเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555
หุ้นออราเคิล คอร์ป ร่วงลง 2.8% หลังจากอาร์บีเอส แคปิตอล มาร์เก็ต ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว พร้อมกับปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทออราเคิลลงด้วย
หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ ปรับตัวลง 1.8% หลังจากผู้บริหารของบริษัทได้แสดงมุมมองในด้านลบต่อแนวโน้มผลประกอบการ อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
หุ้นเฟซบุ๊กดีดตัวขึ้น 5% ขณะที่หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิ้งส์ ปรับตัวขึ้น 7.5% ปิดที่ 21.50 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคา IPO
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PPI เดือนพ.ย.จะทรงตัว และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.