ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,884.57 จุด พุ่งขึ้น 129.21 จุด หรือ +0.82% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,786.54 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด หรือ +0.63% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,029.52 จุด เพิ่มขึ้น 28.54 จุด หรือ +0.71%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 1.1% ซึ่งพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี และนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ล่าสุดถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 0.8% แตะ 79.0% ในเดือนพ.ย
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมที่กระเตื้องขึ้น
กระทรวงระบุว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรในไตรมาส 3 ปีนี้เพิ่มขึ้น 3.0% ซึ่งพุ่งขึ้นอย่างมากหลังการปรับเพิ่มขึ้น 1.9% ต่อปีในการประเมินครั้งแรก และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2552
นักวิเคราะห์จำนวนมากขึ้นคาดว่าเฟดจะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากมีการรายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนพ.ย.ที่สดใสในสหรัฐ
หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.13% หลังจากบริษัทประกาศแผนขายธุรกิจเช่าเครื่องบิน หุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 2% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) พุ่งขึ้น 3.5% ขานรับข่าวที่ว่าจีเอ็มวางแผนที่จะใช้จ่ายเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงโรงงานในสหรัฐ และอาจจะพิจารณาปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลในปีหน้า
ส่วนหุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของเวลส์ ฟาร์โก ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นทวิตเตอร์