ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 135.31 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 16,441.35 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 16.38 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 1,831.98 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 33.52 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 4,143.07 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังจากดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นทำสถิติแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 15 ปีในปี 2556 ขณะที่มาร์ค นิวตัน หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านเทคนิคจากบริษัท Greywolf Execution Partners Inc ในกรุงนิวยอร์กกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ในภาวะที่มีแรงซื้อส่งเข้ามามากเกินไปในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็คาดว่าตลาดหุ้นในปีนี้มีแนวโน้มที่สดใส หลังจากที่ตลาดเคลื่อนตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2556
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2556 ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 26.5% ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 29.6% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 38.3% โดย Nasdaq ทำสถิติแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 2552
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย แตะที่ 339,000 ราย
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 57.0 ในเดือนธ.ค.จาก 57.3 ในเดือนพ.ย. โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมการผลิต
หุ้นแอปเปิลร่วงลง 1.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของเวล์ส ฟาร์โก ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิลลงสู่ระดับ "market perform" จากระดับ "outperform" โดยระบุว่าผลกำไรโดยรวมจากการขายผลิตภัณฑ์ไอโฟนอาจจะได้รับแรงกดดันในปีนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.1%
หุ้นอนาล็อก ดิไวเซส ดิ่งลง 3.2% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุน "ขาย" หุ้นดังกล่าว จากเดิมที่เคยจัดอันดับความน่าลงทุนเอาไว้ที่ "neutral"