ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 68.20 จุด เหตุวิตกเฟดยุติ QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 9, 2014 06:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ของเฟดให้การสนับสนุนการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 68.20 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 16,462.74 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.39 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 1,837.49 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 12.43 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 4,165.61 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการปรับลดขนาดมาตรการ QE ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะตัดสินใจยุติมาตรการ QE เมื่อพิจารณาจากการประเมินเศรษฐกิจในด้านบวก

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐเผยภาคเอกชนสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ การจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคก่อสร้างและภาคการผลิต เนื่องจากธุรกิจมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นและเพิ่มตำแหน่งงานใหม่ในบริษัท โดยภาคบริการจ้างงานเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 19,000 ตำแหน่ง และภาคก่อสร้างเพิ่มขึ้น 48,000 ตำแหน่ง

หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 3.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของ Cantor Fitzgerald แนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นทวิตเตอร์ ขณะที่หุ้นเจซี เพนนี ร่วงลง 10% เนื่องจากทางบริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยยอดขายประจำเดือนธ.ค.ได้ หลังจากที่ได้เปิดเผยยอดขายของเดือนต่างๆก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี หุ้นฟอร์ด ปรับตัวขึ้น 1% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดีดตัวขึ้น 9.9% และหุ้นเมซี อิงค์ ทะยานขึ้น 4.8%

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ