ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 41.55 จุด, S&P ลบ หลังเผยข้อมูลศก.,ผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 18, 2014 05:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) ขณะที่ดัชนีหลักอีกสองตัวปรับลดลง หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่หลายแห่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้น 41.55 จุด หรือ 0.25% สู่ระดับ 16,458.56 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 7.19 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 1,838.70 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วง 21.11 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 4,197.58 จุด

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์และ Nasdaq บวก 0.1% และ 0.5% ตามลำดับ ขณะที่ S&P 500 ลบ 0.2%

วอลล์สตรีทอยู่ในช่วงปรับฐาน หลังจากผ่านพ้นปี 2556 ที่สดใส โดยนักลงทุนกำลังพิจารณาแยกแยะข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่มีการเปิดเผยในระยะนี้ ซึ่งโดยรวมแล้วบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐแกร่งขึ้น

สำหรับข้อมูลที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้นมีทั้งบวกและลบ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 9.8% สู่ระดับ 999,000 ยูนิต แต่ถึงแม้จะเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2556 แต่ตัวเลขก็ยังสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 990,000 ยูนิต

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัย ที่ร่วงลงผิดคาดแตะ 80.4 ในเดือนม.ค. จาก 82.5 ในเดือนก่อนหน้า

ในส่วนของผลประกอบการบริษัท วาณิชธนกิจ มอร์แกน สแตนลีย์ รายงานผลกำไร 181 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2556 ร่วงลง 70% จากปีก่อนหน้า ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและธุรกิจตราสารหนี้ที่อ่อนแอ

อย่างไรก็ดี หากไม่รวมรายจ่ายทางกฎหมายและรายการอื่นๆ ผลกำไรของบริษัทอยู่ที่ 50 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 45 เซนต์

ภายหลังการเปิดเผยผลประกอบการ หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่ง 4.38%

ส่วนหุ้นอินเทลร่วง 2.60% ซึ่งเป็นปัจจัยถ่วงดัชนีหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่บริษัทรายงานผลกำไรไตรมาส 4 หลังปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งออกมาน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังถูกกดดันจากการแสดงความเห็นของนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟด ริชมอนด์ ที่กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ จะมีการหารือเรื่องการลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายหลังจากที่เฟดมีมติลดวงเงินเบื้องต้นแล้วในการประชุมครั้งที่ผ่านมาเมื่อเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ