ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ร่วงลงไปถึง 3.4% ในการซื้อขายสามวันที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นลงอีก
หุ้นดูปองท์บวก 1% หลังบริษัทประกาศแผนการซื้อหุ้นคืน หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ บวก 2.4% หลังบริษัทเผยว่ามีผลกำไรก่อนหักภาษีในอเมริกาเหนือและเอเชียในปีที่แล้ว หุ้นไฟเซอร์บวก 2% หลังบริษัทยารายใหญ่เผยกำไร 56 เซนต์/หุ้น ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนหุ้นแอปเปิล อิงค์ ดิ่ง 7.2% หลังบริษัทเผยยอดขายไอโฟนต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด หุ้นซีเกตร่วง 5.7% หลังบริษัทเผยผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามคาด
ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วัน โดยจะเริ่มในวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะลด QE อีก หลังจากที่ในเดือนที่แล้ว เฟดได้ตัดสินใจเริ่มลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือนลง 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.
ตลาดคาดว่าเฟดจะลดการซื้อสินทรัพย์ลง 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมแต่ละครั้งก่อนที่จะยุตินโยบาย QE ในปีนี้ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราปานกลาง และภาวะตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดขายสินค้าคงทนเดือนธ.ค. ดัชนีราคาบ้านของ S&P / Case-Shiller เดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จาก Conference Board