ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กจีดีพีสหรัฐสดใส หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 109.82 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 31, 2014 06:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ยังคงขยายตัวได้ดีในไตรมาส 4/2556 และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทบางแห่ง รวมถึงเฟซบุ๊ก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,848.61 จุด เพิ่มขึ้น 109.82 จุด หรือ +0.70% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,794.19 จุด เพิ่มขึ้น 19.99 จุด หรือ +1.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,123.12 จุด เพิ่มขึ้น 71.69 จุด หรือ +1.77%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 4/2556 ขยายตัว 3.2% เพราะได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการอุปโภคบริโภคและยอดส่งออก โดยการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมนั้น ขยายตัว 3.3% ทำสถิติขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2553 ขณะที่ยอดส่งออกในไตรมาส 4 ขยายตัว 11.4% ทำสถิติขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2553

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19,000 ราย สู่ระดับ 348,000 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ขยับขึ้นเพียง 750 ราย สู่ระดับ 333,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 14.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 63% สู่ระดับ 2.59 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 2.35 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรในไตรมาส 4 อยู่ที่ 31 เซนต์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 27 เซนต์ต่อหุ้น

หุ้นกูเกิล อิงค์ ปรับตัวขึ้น 2.6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเลโนโว กรุ๊ป ตกลงซื้อธุรกิจโทรศัพท์มือถือของบริษัทโมโตโรลา โมบิลิตี้ จากกูเกิล คิดเป็นมูลค่า 2.91 พันล้านดอลลาร์

หุ้นวีซา อิงค์ ดีดตัวขึ้น 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ส่วนหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ