ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,440.23 จุด ลดลง 5.01 จุด หรือ -0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,011.55 จุด ลดลง 19.97 จุด หรือ -0.50% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,751.64 จุด ลดลง 3.56 จุด หรือ -0.20%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งน้อยว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว
นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. โดยระบุว่าเพิ่มขึ้นเพียง 227,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีหลักๆในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการสหรัฐขยายตัวแตะที่ระดับ 54.0 ในเดือนม.ค. จากระดับ 53.0 ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวแตะ 53.5 และดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคบริการมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า
หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มธุรกิจด้านความงามและสุขภาพ และกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม ปรับตัวลง และได้ฉุดดัชนี S&P 500 ปิดลบด้วย โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป ร่วงลง 1.2% ขณะที่หุ้นค็อกนิแซนท์ ดิ่งลง 4.3%
ส่วนหุ้นเอสเต้ ลอเดอร์ ร่วงลง 5.5% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการรายไตรมาสลงเหลือ 55 เซนต์ต่อหุ้น น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 64 เซนต์ต่อหุ้น