ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวันทำการล่าสุดที่ 15,994.77 จุด เพิ่มขึ้น 192.98 จุด หรือ +1.22% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,819.75 จุด เพิ่มขึ้น 19.91 จุด, +1.11% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,191.05 จุด เพิ่มขึ้น 42.88 จุด, +1.03%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากนางเยลเลนได้แถลงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการ QE ต่อไป เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะช่วยให้ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ นางเยลเลนให้คำมั่นสัญญาว่า เธอจะสานต่อเจตนารมณ์ด้านนโยบายการเงินของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด ด้วยการเดินหน้าปรับลดมาตรการ QE ต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่เกิดขึ้นในระยะนี้ยังไม่มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ถ้อยแถลงของนางเยลเลนช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ในระหว่างวันนั้น ตลาดได้รับแรงกดดันอยู่บ้างจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยสต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อความเคลื่อนไหวของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เนื่องจากถูกนำไปคำนวณในอัตราการขยายตัวของจีดีพี
หุ้นคลิฟฟ์ เนเชอรัล รีซอสเซส พุ่งขึ้น 4.5% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท
ขณะที่หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ปรับตัวขึ้น 1% หลังจากจีเอ็มเปิดเผยยอดขายในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 12% ในเดือนม.ค.