ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดลบ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซบเซา,ผลประกอบการเอกชนอ่อนแอ

ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 61 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 15,899 จุด ดัชนี Nasdaq ขยับลง 7 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 4,194 จุด และดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 5 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 1,813 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นไปอย่างซบเซา หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 339,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 331,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 330,000 ราย

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวที่มีการเปิดเผยในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงเผชิญกับภาวะเปราะบาง นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มน้อยเพียง 113,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.หดตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้จะหดตัวลงเพียง 0.2% ส่วนยอดค้าปลีกที่ไม่นับรวมยอดขายยานยนต์ น้ำมันเบนซิน วัสดุก่อสร้าง และการบริการด้านอาหาร ปรับตัวลดลง 0.3% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นส่งผลให้ความต้องการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคลดน้อยลง

หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 4% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการรายไตรมาสจะลดลงราว 6-8% เนื่องจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

หุ้นโฮล ฟู๊ดส์ ดิ่งลง 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 8.2% สู่ระดับ 158 ล้านดอลลาร์ หรือ 42 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 44 เซนต์ต่อหุ้น

หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล พุ่งขึ้น 7% ขณะที่หุ้นคอมคาสท์ร่วงลง 4% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทคอมคาสท์ได้ตกลงซื้อธุรกิจไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์