ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 15.61 จุด หรือ 0.23% ที่ 6,659.42 จุด
นักลงทุนหันมาจับตาผลประกอบการอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ในช่วงหกวันที่ผ่านมา ฟุตซี่เดินหน้าขึ้น 3.5% รับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐคนใหม่ซึ่งกระตุ้นมุมมองบวกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถต้านทานการลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือนได้
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นลอนดอนร่วงลงไปถึง 1% ในระหว่างวัน หลังจากที่หลายบริษัทเผยแนวโน้มผลประกอบการที่น่าผิดหวัง โดยเทต แอนด์ ไลล์ พีแอลซี ดิ่งลง 17% หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตสารให้ความหวานยี่ห้อ Splenda คาดการณ์ว่าราคาซูคราโลสจะร่วงลง 15% ในปีงบการเงินหน้าซึ่งจะเริ่มในเดือนเม.ย.นี้ บริษัทระบุว่าอุปทานซูคราโลสจำนวนมากในจีนทำให้ตลาดน้ำตาลเทียมแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้น
เทต แอนด์ ไลล์ ยังคาดการณ์ด้วยว่าผลกำไรตลอดทั้งปีจะใกล้เคียงกับปีก่อน
หุ้นโรลส์-รอยซ์ ดิ่ง 14% หลังผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานเผยคาดการณ์ที่ว่ารายได้และกำไรของบริษัทอาจหยุดเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ขณะที่ผลกำไรสำหรับปี 2556 ลดลง 41%
ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พีแอลซี ลบ 2.7% หลังผู้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่สุดของอังกฤษรายงานยอดขาดทุนสุทธิ 838 ล้านปอนด์ในปีงบการเงิน 2556 ซึ่งแม้ลดลงจากที่ขาดทุน 1.47 พันล้านปอนด์ในปี 2555 แต่ก็ยังมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นอเบอร์ดีน แอสเส็ท แมเนจเม้นท์ ลดลง 4.5% หลังบริษัทจัดการกองทุนสัญชาติสกอตแลนด์ถูกปรับลดความน่าลงทุน
นอกจากการแนวโน้มผลประกอบที่น่าผิดหวังของหลายบริษัทแล้ว บรรยากาศการซื้อขายยังถูกกดดันจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแรงของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดค้าปลีกลดลง 0.4% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่กระทรวงแรงงานรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้น 8,000 ราย แตะ 339,000 รายในสัปดาห์ที่สิ่นสุด ณ วันที่ 8 ก.พ. จากระดับ 331,000 รายในสัปดาห์ก่อน ซึ่งผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 330,000 ราย