ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 63.65 จุด หลังนลท.เมินข้อมูลศก.อ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 14, 2014 05:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) จากที่ลดลงในช่วงเปิดตลาด ภายหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่มีทั้งบวกและลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 63.65 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 16,027.59 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 10.57 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 1,829.83 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 39.38 จุด หรือ 0.94% ที่ระดับ 4,240.67 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีหลักในตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ โดย Nasdaq ปรับตัวขึ้นหกวันทำการติดต่อกัน ส่วนดาวโจนส์และ S&P 500 ก็เดินหน้าขึ้นเป็นครั้งที่ห้าในรอบหกวัน

วอลล์สตรีทปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์รายงานก่อนตลาดเปิดทำการว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้จะลดลงเพียง 0.2%

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 339,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 331,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 330,000 ราย

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ยติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 336,750 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 333,250 ราย

อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับมาดีดตัวสูงขึ้นในเวลาต่อมา เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว การที่ภาคธุรกิจเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังจะถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

ประกอบกับการที่นักวิเคราะห์มองว่า ยอดค้าปลีกที่ลดลงในเดือนม.ค.นั้นมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคลดน้อยลง ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อในตลาด

ในส่วนของข่าวภาคธุรกิจนั้น คอมแคสต์ คอร์ปอเรชั่น และไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล สองผู้ให้บริการเคเบิลรายใหญ่สุดของสหรัฐ ประกาศว่า บอร์ดบริหารของบริษัทอนุมัติข้อตกลงขั้นสุดท้ายสำหรับการควบรวมกิจการ โดยคอมแคสต์ตกลงที่จะซื้อไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล เป็นมูลค่าประมาณ 4.52 หมื่นล้านดอลลาร์

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นคอมแคสต์ร่วง 4.12% ขณะที่หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล พุ่ง 7.01%

หลังจากตลาดปิดทำการได้ไม่นาน อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ได้เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสสี่ที่สดใส พร้อมกับเพิ่มเงินปันผล ส่งผลให้หุ้นบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ปรับตัวขึ้นในช่วงการซื้อขายหลังตลาดปิดทำการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ