ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 89.84 จุด เหตุวิตกเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 20, 2014 06:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางคนได้เสนอว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งรายงานดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,040.56 จุด ลดลง 89.84 จุด หรือ -0.56% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,237.95 จุด ลดลง 34.83 จุด หรือ -0.82% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,828.75 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.65%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐร่วงลง 16% สู่ระดับ 880,000 ยูนิตในเดือนม.ค. จากระดับ 1,048,000 ยูนิตในเดือนธ.ค. ส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์บรรเทาความร้อนแรงลง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า "เจ้าหน้าที่เฟดบางคนได้ชูประเด็นความเป็นไปได้ที่ว่า นับเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) อย่างค่อยเป็นค่อยไปในเร็วๆนี้" แม้ว่าจนถึงขณะนี้บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดยังไม่มีการใช้สัญญาณชี้นำล่วงหน้าในเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็ตาม

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงประเภทต่างๆ รวมถึงหุ้น

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สำหรับอุปสงค์ขั้นสุดท้าย ขยายตัว 0.2% ในเดือนม.ค.จากเดือนธ.ค. นับว่าขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หุ้นยูเอส สตีล ร่วงลง 7% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ