ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,133.23 จุด เพิ่มขึ้น 92.67 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,839.78 จุด เพิ่มขึ้น 11.03 จุด หรือ +0.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,267.55 จุด เพิ่มขึ้น 29.60 จุด หรือ +0.70%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยร์กิต อีโคโนมิคส์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.7 จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 53.7 โดยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนก.พ.ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ซึ่งตรงข้ามกับภาคการผลิตจีนที่หดตัวลง โดยในวันนี้ เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.พ.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือนม.ค. โดยดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตจีนในเดือนก.พ.ลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่และการผลิตหดตัวลง
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.พ.ปรับตัวลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 336,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัว
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 2.3% หลังจากมีรายงานว่าเฟซบุ๊กได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อ WhatsApp Inc. บริษัทแอพพลิเคชั่นแชตมือถือ เป็นมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ แบ่งออกเป็นการซื้อด้วยเงินสด 4 พันล้านดอลลาร์ และหุ้นของเฟสบุ๊ก 183,865,778 หุ้น มูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์) นอกจากนี้เฟสบุ๊กจะมอบหุ้นจำกัดสิทธิของเฟสบุ๊กให้แก่ผู้ก่อตั้งและพนักงาน WhatsApp อีก 45,966,444 หุ้น (มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์)
หุ้นเทสลา มอเตอร์ พุ่งขึ้น 8.43% หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายยานยนต์ในปีนี้ ส่วนหุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลง 1.8% และหุ้นแอปเปิลปรับตัวลง 1.2% หลังจากมีรายงานว่าส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลในประเทศจีนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7% ในไตรมาส 4/2556 จากระดับ 9% ของไตรมาส 4/2555