ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,103.30 จุด ลดลง 29.93 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,836.25 จุด ลดลง 3.53 จุด หรือ -0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,263.41 จุด ลดลง 4.14 จุด หรือ -0.10%
ทั้งนี้ NAR รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ของสหรัฐ ร่วงลง 5.1% สู่ระดับ 4.62 ล้านยูนิต เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่สูงขึ้น และสภาพอากาศหนาวอย่างรุนแรง โดยยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ปรับตัวลงลดลงเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐร่วงลง 16% สู่ระดับ 880,000 ยูนิตในเดือนม.ค. จากระดับ 1,048,000 ยูนิตในเดือนธ.ค. ส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มซบเซาลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แม้ข้อมูลบางด้านจะออกมาซบเซาบ้างก็ตาม
ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้ว จากการที่เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า "เจ้าหน้าที่เฟดบางคนได้ชูประเด็นความเป็นไปได้ที่ว่า นับเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) อย่างค่อยเป็นค่อยไปในเร็วๆนี้" แม้ว่าจนถึงขณะนี้บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดยังไม่มีการใช้สัญญาณชี้นำล่วงหน้าในเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ร่วงลง 1.32% แม้ทางบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดก็ตาม ขณะที่หุ้นกรุ๊ปปอง อิงค์ ดิ่งลง 21.88% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน