ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอน ปรับตัวลง 75.82 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 6,712.67 จุด และตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 1.4%
นักลงทุนเทขายหุ้นท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าวิกฤตในยูเครนอาจเพิ่มระดับความรุนแรง ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงจากที่ฟื้นตัวเล็กน้อยอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงบ่ายวันศุกร์ตามเวลายุโรป หลังจากที่บริษัทก๊าซพรอมของรัสเซียเผยว่าอาจระงับการส่งก๊าซไปยังยูเครน เหมือนกับที่เคยทำเช่นนี้มาแล้วเมื่อปี 2552 เนื่องจากยูเครนยังไม่ได้จ่ายค่าส่งก๊าซเดือนก.พ. พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ยูเครนค้างชำระค่าก๊าซอยู่ 1.89 พันล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานว่า ก๊าซพรอม บริษัทก๊าซธรรมชาติยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย จะยกเลิกการให้ส่วนลดในการจัดส่งก๊าซแก่ยูเครน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้ รายงานอ้างคำกล่าวของนายอเล็กเซย์ มิลลิเออร์ ซีอีโอของก๊าซพรอม ซึ่งระบุถึงสาเหตุของการตัดสินใจดังกล่าวว่า เป็นเพราะยูเครนไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาได้
หุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลงหนักสุด นำโดยหุ้นเกลนคอร์ เอ็กซ์สตราตา ที่ลดลง 4.4% และแองโกล อเมริกัน ดิ่งลง 6.6%
หุ้นโวดาโฟนลบ 3.5% หลังถูกโบรกเกอร์ปรับลดคำแนะนำจากซื้อ