หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 50.99 จุด หรือ 0.31% ที่ระดับ 16,300.26 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 7.49 จุด หรือ 0.40% แตะที่ 1,860.14 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq หดตัว 16.90 จุด หรือ 0.39% สู่ระดับ 4,290.29 จุด
ตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนหลังจากที่กรมศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนก.พ.ร่วงลง 18.1% จากปีก่อน ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1% ส่งผลให้จีนมียอดขาดดุลการค้า 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับที่เกินดุล 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังไม่คลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นับตั้งแต่ที่รัสเซียได้พยายามช่วงชิงอำนาจการปกครองในเขตไครเมียจากยูเครน หลังจากที่นายวิคเตอร์ ยานูโควิช อดีตผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย ถูกขับไล่ออกไปในเดือนก่อนหน้า
ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะมีการลงประชามติซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะเดียวกันรัฐสภารัสเซียประกาศว่าจะจัดการอภิปรายในประเด็นที่ว่าจะรับสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศหรือไม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้
ขณะที่นานาชาติต่างเตือนไครเมียว่า การลงคะแนนเสียงประชามติดังกล่าว จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนรัฐบาลรักษาการของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและยุโรปนั้น ระบุว่า การจัดทำประชามติครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย