ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 327.95 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,306.26 จุด ลดลง 43.46 จุด หรือ -1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,188.69 จุด ลดลง 119.10 จุด หรือ -1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,620.90 จุด ลดลง 64.62 จุด หรือ -0.97%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน หลังจากรัฐสภาของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียมีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติของไครเมียในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ผู้นำในหลายประเทศได้ออกมาเตือนไครเมียว่า การลงคะแนนเสียงประชามติดังกล่าว จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนรัฐบาลรักษาการของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและยุโรปนั้น ระบุว่า การจัดทำประชามติครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับท่าทีในฝั่งสหรัฐนั้น ล่าสุดประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐได้กล่าวภายหลังจากจากที่ประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุคของยูเครน เมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะยืนเคียงข้างยูเครน พร้อมระบุว่า การที่รัสเซียแทรกแซงกิจการของไครเมียนั้น ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย
หุ้น Maersk ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 3.2%
ขณะที่หุ้น Valeo ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของฝรั่งเศส ดิ่งลง 2.1% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท Bpifrance Financement SA ขายหุ้น 1.98 ล้านหุ้นใน Valeo ให้กับนักลงทุนสถานบัน คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม หุ้นพรูเดนเชียล พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.95 พันล้านปอนด์ในปี 2556