ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1.7% แตะ 132.42 เมื่อเวลา 12.50 น.ตามเวลาโตเกียว
หุ้นนิวเครสท์ ไมนิ่ง ร่วง 7% หลังจากที่ราคาทองร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน ภายหลังการประกาศท่าทีของเฟดจนส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำ ส่วนหุ้นไมเยอร์ โฮลดิ้งส์ ร่วง 5.5% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย เนื่องจากการปรับลดคาดการณ์กำไรของบริษัท
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดระบุว่า การตัดสินใจปรับลดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากภาวะในตลาดในแรงงานฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) เอาไว้ที่ระดับ 0-0.25%
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า ภาวะในตลาดแรงงานส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคาดการณ์ว่า การที่เฟดใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างเหมาะสมในช่วงที่ผ่านมานั้น จะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวปานกลางและจะช่วยให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน