หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 30.18 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 16,191.99 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.22 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 1,858.55 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 4.79 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 4,302.82 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากนางเยลเลนกล่าวว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมล่าสุด ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา โดยในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5,000 ราย แตะที่ 320,000 ราย ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ปรับตัวลง 0.4% แตะที่ 4.60 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2555
หุ้นเลนนาร์ คอร์ป ปรับตัวลง 0.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสเพิ่มขึ้นแตะ 78.1 ล้านดอลลาร์ หรือ 35 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 28 เซนต์ต่อหุ้น
หุ้นแบล็อคเบอร์รี่ ลดลง 0.7% หุ้นแกลคโซสมิธไคลน์ ร่วงลง 1.4%