หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 63.61 หรือ 0.4% แตะที่ระดับ 16,239.16 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.8% แตะที่ 1,851 จุด ณ เวลา 22.07 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงหลังจากมาร์กิต ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเงินของสหรัฐเปิดเผยว่า กิจกรรมในภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวในจังหวะที่ชะลอตัวลงในเดือนมี.ค. หลังจากที่ขยายตัวเกือบสูงสุดในรอบ 4 ปี ในเดือนก.พ. แต่อย่างไรก็ดี อัตราการขยายตัวและการจ้างงานยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
รายงานในเบื้องต้นของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐลดลงแตะ 55.5 จาก 57.1 ในเดือนก.พ. โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว
ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 56.5 แต่ยังคงสูงกว่าค่าดัชนีในเดือนม.ค.ที่ระดับ 53.7 ซึ่งบ่งชี้ว่าผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวจัดได้ผ่อนคลายลง
นักวิเคราะห์ระบุว่า การคว่ำบาตรต่อรัสเซียโดยสหรัฐและสหภาพยุโยปอาจผลักดันให้เศรษฐกิจรัสเซียเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากประเทศตะวันตกได้เพิ่มมาตรการคว่าบาตรต่อรัสเซียหลังเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับไครเมียเพิ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนนี้
หุ้นอเล็กเซี่ยน ฟาร์มาซูติคัลส์ อิงค์ นำหุ้นกลุ่มเภสัชกรรมของดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง โดยลดลง 7%
หุ้นแอปเปิ้ล อิงค์ เพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า บริษัทได้เจรจาร่วมกับบริษัทคอมแคสท์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวีรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เกี่ยวกับการถ่ายทอดสดรายการโทรทัศน์และวิดีโอ