ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 337.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,449.33 จุด เพิ่มขึ้น 18.47 จุด หรือ +0.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,628.82 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด หรือ +0.06% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,649.14 จุด ลดลง 9.90 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากนายดรากิกล่าวว่า อีซีบีจะใช้มาตรการต่างๆที่จำเป็น หากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ในระดับต่ำนานเกินไป ซึ่งภาวะดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน พร้อมกับกล่าวว่าอีซีบีจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น และอีซีบีคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากดัชนีภาคบริการของยูโรโซนและเยอรมนีที่ขยายตัวเพียงเล็กน้อย โดยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.ปรับลงแตะ 52.2 จาก 52.6 ในเดือนก.พ. และเทียบกับการประเมินเบื้องต้นที่ 52.4 ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 53.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จาก 55.9 ในเดือนก.พ.
หุ้นบีทีจี ซึ่งเป็นบริษัทไบโอเทคโนโลยีของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 1% ขณะที่หุ้นเร็กเซล ร่วงลง 2.3% และหุ้นเพอร์นอด ไรคาร์ด ปรับตัวลง 1.2% นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น สหรัฐระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. เพิ่มขึ้น 16,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 319,000 ราย ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.พ.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.7% จากเดือนก่อนหน้า แตะที่ระดับ 4.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน