ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลง หลังหุ้นเทคโนโลยีร่วงหนัก

ดัชนี MSCI Emerging Markets ปรับตัวลง 0.7% สู่ระดับ 997.14 จุด เมื่อเวลา 14.25 น. ตามเวลาฮ่องกง

หุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ และหุ้นฮอนไฮ พรีซิชั่น ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอกดักเตอร์ ร่วงลงไม่น้อยกว่า 1.8% ที่ตลาดหุ้นไต้หวัน ขณะหุ้นผู่เฉิน บริษัทผลิตรองเท้าร่วง 7% ที่ตลาดหุ้นไต้หวันภายหลังการประท้วงที่โรงงานรองเท้าในจีน ซึ่งบริหารงานโดยบริษัทเครือ เข้าสู่วันที่ 10 ส่วนหุ้นไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป ร่วง 2.1% หลังปิโตรไชน่า ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซอันดับ 1 ของจีนเผยกำไรในไตรมาสแรกลดลง

ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลง โดยมีแนวโน้มร่วงต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ในสัปดาห์นี้ดัชนีปรับตัวลง 1.5% จากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะกระทบผลประกอบการ ตลอดจนความตึงเครียดในยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเตือนว่า การใช้ความรุนแรงกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนของยูเครน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย จะกระตุ้นให้รัสเซียเริ่มทำการซ้อมรบครั้งใหม่ที่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ ฝั่งนายจอห์น เคอร์รี รมว.ต่างประเทศของสหรัฐเตือนว่า เวลาสำหรับรัสเซียกำลังจะหมดลงในการทำตามข้อตกลงเพื่อลดความตึงเครียดในยูเครน

ขณะเดียวกัน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของรัสเซียลงสู่ระดับ BBB- ซึ่งถือเป็นอันดับต่ำสุดของระดับน่าลงทุน (investment grade) โดยมีความเป็นไปได้ที่ S&P จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีก หากอัตราการขยายตัวของประเทศชะลอตัวลงและสหรัฐและยุโรปยกระดับการคว่ำบาตรอันเนื่องมาจากความขัดแย้งในยูเครน