ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,361.46 จุด ลดลง 140.19 จุด หรือ -0.85% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,075.56 จุด ลดลง 72.78 จุด หรือ -1.75% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,863.40 จุด ลดลง 15.21 จุด หรือ -0.81%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง เนื่องจากสถานการณ์ในยูเครนสร้างแรงกดดันให้แก่ตลาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดการทำโพสิชันในตลาดหุ้น โดยความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียได้แตะถึงขีดสุดวานนี้ จากการที่รัสเซียฝึกซ้อมทางการทหารประชิดชายแดนที่ติดยูเครนเพื่อเป็นการตอบโต้ "ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย" ของยูเครน ซึ่งทำให้ผู้ประท้วงที่ฝักใฝ่รัสเซียเสียชีวิต 5 ราย
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียแถลงข่าวโดยเรียก "ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย" ซึ่งดำเนินการกองกำลังทหารยูเครนที่พื้นที่ตะวันออกของยูเครนว่าเป็น "อาชญากรรมร้ายแรง" พร้อมกันนี้ยังเตือนถึง "ผลที่ตามมา" หากยูเครนใช้ทหารต่อสู้กับประชาชน ฝั่งนายจอห์น เคอร์รี รมว.ต่างประเทศของสหรัฐเตือนว่า เวลาสำหรับรัสเซียกำลังจะหมดลงในการทำตามข้อตกลงเพื่อลดความตึงเครียดในยูเครน
หุ้นอเมซอนร่วง 9.9% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ภายหลังบริษัทคาดจะขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาสปัจจุบัน ขณะที่บริษัทอยู่ในระหว่างการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ โดยกำลังสร้างคลังสินค้าเพิ่มเพื่อสามารถส่งสินค้าได้เร็ว พร้อมกับเพิ่มบริการใหม่ๆ อาทิ การส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และกล่องรับสัญญาณทีวีเพื่อแพร่ภาพภาพยนตร์และรายการต่างๆ เพื่อแข่งขันกับแอปเปิ้ลและเน็ตฟลิกซ์ ส่วนหุ้นหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 0.13% หลังเปิดเผยกำไรประจำไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์
หุ้นฟอร์ดปรับตัวลง 3.3% ภายหลังเปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาสแรกอยู่ที่ 989 ล้านดอลลาร์ หรือ 24 เซนต์/หุ้น ซึ่งลดลง 622 ล้านดอลลาร์ หรือ 16 เซนต์/หุ้นเมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อน ขณะที่หุ้นวีซ่าร่วง 5% หลังบริษัทเผยรายได้ที่ต่ำเกินคาด ขณะที่ผู้บริหารของวีซ่าระบุว่า การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐจะกระทบต่อการขยายตัวของรายได้บริษัทต่อไปในไตรมาสหน้า