ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,448.74 จุด เพิ่มขึ้น 87.28 จุด หรือ +0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,074.40 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,869.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด หรือ +0.32%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เผย ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว หรือในรอบ 9 เดือน ซึ่งส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้น หลังจากที่เผชิญกับภาวะซบเซาในช่วงต้นปี
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า ภาวะทางธุรกิจในภาคการผลิตของเท็กซัสในเดือนเม.ย.ทะยานขึ้นแตะ 11.7 จาก 4.9 ในเดือนมี.ค. หลังจากดัชนีย่อยหลายตัวได้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตมีการขยายตัวที่สดใสมากขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน โดยบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ได้เสนอซื้อกิจการของบริษัทแอสทราเซเนกาเป็นมูลค่าราว 9.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นเจเนอรัล อิเลคทริค (จีอี) บวก 0.6% ขณะที่ซีอีโอของบริษัทมีกำหนดจะพบปะกับประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสในวันนี้ เพื่อพยายามผลักดันข้อเสนอของจีอีในการซื้อกิจการบริษัทอัลสตอม ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวหนุนหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 4.2%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและข่าวการควบรวมกิจการของภาคเอกชนสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน โดยล่าสุดมีรายงานว่าทำเนียบขาวประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียเมื่อวานนี้ โดยพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐบาล 7 รายและบริษัท 17 แห่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย
นักลงทุนจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันอังคารนี้ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของสหรัฐในวันพุธ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์