ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,535.37 จุด เพิ่มขึ้น 86.63 จุด หรือ +0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,103.54 จุด เพิ่มขึ้น 29.14 จุด หรือ +0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,878.33 จุด เพิ่มขึ้น 8.90 จุด หรือ +0.48%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยเมิร์ก แอนด์ โค เปิดเผยว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 88 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นเมิร์กปิดทะยานขึ้น 3.6%
หุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 5.4% หลังจากมีข่าวว่า ยาฮูเตรียมนำภาพเคลื่อนไหวแนวคอมเมดี้ลงบนเว็บไซท์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ขณะที่หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดสมาชิกในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นเป็น 255 ล้านคน
หุ้นอีเบย์ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายที่อยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 3.6% และหุ้นคลาสซี ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.6%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 82.3 จากระดับ 83.9 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองบวกลดน้อยลงเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น 12.9% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวจาก 13.2% ในเดือนม.ค. และจากระดับ 13.4% ในปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจีดีพีไตรมาส 1/2557 ในวันพุธ ดัชนีภาคการผลิตในวันพฤหัสบดี และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนเม.ย.ในวันศุกร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ด้วย