ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 45.98 จุด วิกฤตยูเครนบดบังข้อมูลจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 3, 2014 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนได้บดบังมุมมองบวกจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ที่ออกมาดีเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 45.98 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 16,512.89, ดัชนี S&P 500 ลบ 2.54 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 1,881.14 ดัชนี Nasdaq ขยับลง 3.55 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 4,123.90

อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งสัปดาห์ ทั้งสามดัชนีต่างปรับตัวขึ้นที่ 0.9%, 1.0% และ 1.2% ตามลำดับ

วานนี้ กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้น 288,000 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประมาณ 210,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกันอัตราว่างงานลดลง 0.4% สู่ระดับ 6.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบห้าปีครึ่ง

ข้อมูลจ้างงานเดือนล่าสุดได้หนุนให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดดีดตัวขึ้น ก่อนที่บรรยากาศการซื้อขายจะกลายเป็นลบในเวลาต่อมา

"ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งอย่างน่าแปลกใจและฟื้นตัวได้เร็ว" บาร์ต ฟาน อาร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยไปแสวงผลกำไรในนิวยอร์ก กล่าว

อย่างไรก็ตาม การสร้างงานที่แข็งแกร่งได้ทำให้เกิดคำถามว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังในการทุ่มเม็ดเงินเพื่อซื้อหุ้น

นอกจากนี้ ความต้องการของนักลงทุนในการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงยังถูกบั่นทอนจากสถานการณ์ไม่แน่นอนที่ยังคงดำเนินอยู่ในยูเครน หลังจากที่มีรายงานว่า รัฐบาลยูเครนได้เริ่มต้นปฏิบัติการปราบปรามบรรดานักเคลื่อนไหวฝักใฝ่รัสเซียในเมืองสโลเวียนสก์ทางภาคตะวันออกของประเทศ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์นั้น นอกจากข้อมูลจ้างงานแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.1% แต่ยังน้อยกว่าการประมาณการของนักวิเคราะห์

ในส่วนของข้อมูลภาคธุรกิจ หุ้นไฟเซอร์ ผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 1.28% มาอยู่ที่ 30.75 ดอลลาร์ หลังจากที่แอสตร้าเซนเนก้า ผู้ผลิตยาของอังกฤษ ปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นบริษัทอื่นๆในกลุ่มบริการด้านสุขภาพก็ปรับตัวลงเช่นกัน เมอร์คร่วงลง 2.4% แตะ 58.22 ดอลลาร์ หุ้นจอห์นสันแอนด์จอห์สันลบ 1.2% มาอยู่ที่ 99.31 ดอลลาร์ โดยหุ้นของสามบริษัทคิดเป็นสัดส่วนมากสุดในการปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ