ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 112.13 จุด ขานรับผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 13, 2014 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,695.47 จุด พุ่งขึ้น 112.13 จุด หรือ +0.68% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,143.86 จุด เพิ่มขึ้น 71.99 จุด หรือ+1.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,896.65 จุด เพิ่มขึ้น 18.17 จุด หรือ +0.97%

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากนักลงทุนขานรับการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นตลาดหุ้น ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นแม้สถานการณ์ในยูเครนยังคงตึงเครียดก็ตาม

ตลาดได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน โดยรายงานจากทอมสัน รอยเตอร์ระบุว่า ราว 90% ของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 หรือราว 452 บริษัท ได้รายงานผลประกอบการแล้ว ซึ่งใน 69.2% ของบริษัทเหล่านี้มีผลประกอบการที่ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ 52.9% รายงานผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของผลสำรวจในตลาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน โดยล่าสุดมีรายงานว่าสหภาพยุโรป (อียู) ได้ขยายมาตรการคว่ำบาตรให้ครอบคลุมบุคคลอีก 13 ราย สำหรับการกระทำที่ “บั่นทอนอิสรภาพ อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน"

อียูได้ตัดสินใจขยายขอบเขตของมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว หลังจากที่มีสถานการณ์ล่าสุดในยูเครน และไม่มีการดำเนินการใดๆที่จะนำไปสู่การลดความขัดแย้งแต่อย่างใด โดยมีรายงานว่าประชาชนในเมืองโดเนทสค์และเมืองลูกันสค์ ทางตะวันออกของยูเครน ได้จัดทำประชามติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากยูเครน

ทางการยูเครนและชาติตะวันตกบางประเทศระบุว่าการลงประชามติดังกล่าว “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" ขณะที่รัสเซียระบุว่ารัสเซียเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชนในทั้งสองเมืองของยูเครน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ