ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 101.47 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 15, 2014 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย. ยังทำให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลารวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,613.97 จุด ร่วงลง 101.47 จุด หรือ -0.61% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,100.63 จุด ลดลง 29.54 จุด หรือ -0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,888.53 จุด ลดลง 8.92 จุด หรือ -0.47%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 16,715.44 จุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI เดือนเม.ย.ขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และทำสถิติขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2555 หรือในรอบ 1 ปีครึ่ง ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ ดัชนี PPI เดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI เดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 2.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555

หุ้นฟอสซิล กรุ๊ป อิงค์ ผู้ผลิตนาฬิกาชื่อดัง ร่วงลง 10% หลังบริษัทเผยตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่หุ้น Deere & Co. ดิ่งลง 2% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปี

ส่วนหุ้นไอบีเอ็มร่วงลง 1.8% แม้ว่านางจินนี โรเมทตี ซีอีโอของไอบีเอ็มได้แสดงความเชื่อมั่นว่าทางบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ดีตามคาดในปีหน้า ถึงแม้ว่ายอดขายฮาร์ดแวร์ในตลาดเกิดใหม่จะชะลอตัวลงก็ตาม นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ โดยบริษัทวอล-มาร์ท บริษัทเมซี และบริษัทโคห์ล มีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ