ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 167.16 จุด เหตุวิตกผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 16, 2014 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน รวมถึงวอลมาร์ท ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่หดตัวลงในเดือนเม.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,446.81 จุด ร่วงลง 167.16 จุด หรือ -1.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,069.29 จุด ลดลง 31.34 จุด หรือ -0.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,870.85 จุด ลดลง 17.68 จุด หรือ -0.94%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดการผลิตของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค หดตัวลง 0.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต ปรับตัวลดลง 0.7% สู่ระดับ 78.6% เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิต

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน โดยบริษัทวอลมาร์ท เปิดเผยว่ากำไรไตรมาสแรกลดลงสู่ระดับ 1.10 ดอลลาร์ต่อหุ้น อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในสหรัฐ พร้อมกับคาดการณ์ว่าผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 1.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นวอลมาร์ทร่วงลง 2.43% ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงบวกในระหว่างวันจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค.ของสหรัฐ ลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 297,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 320,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

หุ้นโคห์ล คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่อีกแห่งหนึ่งนั้น ดิ่งลง 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นบริสทอล-เมเยอร์ สควิบบ์ ร่วงลง 6.1% หลังจากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ "market perform" จากระดับ "outperform"

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ร่วงลง 1.7% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเรียกคืนรถยนต์ของบริษัทจีเอ็ม

ส่วนหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 6% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ