ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 20.55 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 16,511.86 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 7.22 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 1,885.08 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 35.23 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 4,125.82 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเปิดทำการแทบไม่เปลี่ยนแปลงก่อนจะมีการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ไม่มีปัจจัยกระตุ้นสำคัญๆที่จะมากำหนดทิศทางของตลาด เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อมาตลาดได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อระลอกใหม่ในหุ้นกลุ่มที่มีแรงผลักดันและหุ้นกลุ่มทุนจดทะเบียนต่ำ ซึ่งได้มีการปรับฐานรุนแรงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนข้อตกลงซื้อและควบรวมกิจการที่ออกมาแตกต่างกัน ไม่ได้ช่วยหนุนตลาดให้ปรับตัวในช่วงขาขึ้นมากนัก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัทเอที แอนด์ ทีได้ตกลงซื้อกิจการบริษัทไดเร็ค ทีวี ซึ่งเป็นบริษัททีวีผ่านดาวเทียมรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ที่ระดับ 95 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 4.85 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอิงกับราคาปิดตลาดของหุ้นเอที แอนด์ ทีเมื่อวันศุกร์ แถลงการณ์ร่วมระบุว่าข้อตกลงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบอร์ดผู้บริหารของทั้งสองบริษัท
ขณะเดียวกัน บริษัทแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ได้ปฏิเสธข้อเสนอกิจการในขั้นสุดท้ายจากบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของสหรัฐ โดยระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวมีมูลค่าต่ำเกินไป ทั้งนี้ ไฟเซอร์ได้เสนอซื้อกิจการของแอสทราเซเนการอบใหม่ที่ 55 ปอนด์ (92 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อหุ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อเสนอก่อนหน้านี้ โดยมูลค่าการเสนอซื้อแอสทราเซเนกาในขั้นสุดท้ายอยู่ที่ราว 6.9 หมื่นล้านปอนด์ (1.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่หุ้นของไฟเซอร์ปรับขึ้น 0.55%