ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดลบ หลังจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐพุ่งเกินคาด

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 26.78 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 16,506.28 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.91 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 1,887.12 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 4.19 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 4,135.73 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28,000 ราย แตะที่ 326,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 310,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะผันผวน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งได้ช่วยให้ตลาดลดแรงลบ โดยในวันนี้ มาร์กิต ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเงินของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 56.2 จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 55.4 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 55.5

รายงานของมาร์กิตระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ในภาคการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตจะช่วยหนุนจีดีพีของสหรัฐให้แข็งแกร่งในไตรมาส 2 ปีนี้

หุ้นวิลเลียมส์-โซโนมา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องใช้ภายในครัว พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2557 เป็น 3.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น

หุ้นเซียร์ส โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายปรับตัวลดลง และหุ้นเบสท์บาย ร่วงลง 4.1%

หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นพัลท์กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 2.3%