ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 22.99 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 16,820.89 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.72 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 1,940.17 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 16.63 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 4,315.31 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 317,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้เพิ่มแรงกดดันให้กับตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับปัจจัยลบอยู่ก่อนแล้วหลังจากธนาคารโลกได้ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects) โดยได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.8% จากที่เคยประเมินไว้ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 3.2% พร้อมระบุว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีการขยายตัวที่น่าผิดหวัง
สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ลงเหลือ 2.1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8% แต่ธนาคารโลกยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้
ดาเนียล ซิลเวอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ออกมาค่อนข้างซบเซา แต่สถานการณ์ก็ไม่ถือว่าย่ำแย่มากนัก เนื่องจากสหรัฐได้ปรับทบทวนยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.เป็นขยายตัว 0.6% จากการประมาณการก่อนหน้าที่ระบุว่าขยายตัวเพียง 0.1%