ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,734.19 จุด ร่วงลง 109.69 จุด หรือ -0.65% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,297.63 จุด ลดลง 34.30 จุด หรือ -0.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,930.11 จุด ลดลง 13.78 จุด หรือ -0.71%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 317,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
อย่างไรก็ตาม ดาเนียล ซิลเวอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า แม้ว่ายอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ออกมาค่อนข้างซบเซา แต่สถานการณ์ก็ไม่ถือว่าย่ำแย่มากนัก เนื่องจากสหรัฐได้ปรับทบทวนยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.เป็นขยายตัว 0.6% จากการประมาณการก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าขยายตัวเพียง 0.1%
หุ้นแคททาร์พิลลาร์ ร่วงลง 1.9% ขณะที่หุ้นดีสนีย์ ปรับตัวลง 1.8%
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ปรับตัวลง 5.4% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล ร่วงลง 5.9% และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ปรับตัวลง 4.5%
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับฐานขึ้น นำโดยหุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ดีดขึ้น 0.7%