ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,906.62 จุด เพิ่มขึ้น 98.13 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,362.84 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +0.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,956.98 จุด เพิ่มขึ้น 14.99 จุด หรือ +0.77%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการเฟดออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งสิ้นสิ้นเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) เอาไว้ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมกับปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากระดับ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนแทบจะไม่ให้น้ำหนักกับการที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.1-2.3% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 2.8-3% แต่พุ่งเป้าความสนใจไปที่การเดินหน้าตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับการแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของเฟด โดยเฟดระบุในแถลงการณ์ว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นปานกลาง"
หุ้นเฟดเอ็กซ์พุ่งขึ้น 6.16% หลังผลกำไรไตรมาส 4 สูงกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่หุ้นอะโดบี ซิสเต็มส์ พุ่ง 8.2% หลังรายได้และกำไรรายไตรมาสสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
หุ้น Amazon.com ปรับตัวขึ้น 2.69% หลังจากบริษัทเปิดตัวสมาร์ทโฟน "Fire Phone"